ทีมงานกล่าวว่าอุปกรณ์ซึ่งใช้เอฟเฟกต์ "มุมมหัศจรรย์" อาจช่วยวินิจฉัยอาการบาดเจ็บที่เข่าได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

ในการศึกษาพิสูจน์แนวคิดโดยใช้เข่าของสัตว์ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้สามารถนำมาใช้เพื่อแสดงโครงสร้างทั้งหมดของหัวเข่าได้

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าอุปกรณ์ดังกล่าว (ซึ่งดูเหมือนวงแหวนโลหะขนาดใหญ่ที่ผู้ป่วยวางขาไว้) สามารถช่วยวินิจฉัยอาการต่างๆ เช่น อาการบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักฟุตบอล

นอกจากนี้ ขนาดที่เล็กของอุปกรณ์ยังสามารถนำไปใช้ในคลินิกในพื้นที่และแม้แต่การผ่าตัดของ GP ซึ่งอาจช่วยลดเวลารอการสแกนด้วย MRI ของ NHS

การวิจัยได้รับทุนจากสถาบันวิจัยสุขภาพแห่งชาติ

Dr Karyn Chappell นักวิจัยและนักรังสีวิทยาจากห้องปฏิบัติการ MSK Lab ของ Imperial อธิบายว่าปัจจุบัน ส่วนประกอบสำคัญของข้อเข่า เช่น เส้นเอ็นและเส้นเอ็นนั้นมองเห็นได้ยากในรายละเอียดในการสแกนด้วย MRI ว่า "อาการบาดเจ็บที่เข่าส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคน และการสแกนด้วย MRI มีความสำคัญต่อการวินิจฉัยปัญหา ซึ่งนำไปสู่การรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราประสบปัญหาสองประการ: เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หัวเข่าไม่ชัดเจนในการสแกนด้วย MRI และผู้คนกำลังรอการสแกนเป็นเวลานาน"

Dr Chappell กล่าวเสริมว่า "สิ่งนี้อาจทำให้เกิดปัญหาเฉพาะสำหรับผู้หญิง เนื่องจากพวกเขามีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้ามากขึ้น สาเหตุของเรื่องนี้ไม่ชัดเจน แต่อาจเชื่อมโยงกับฮอร์โมน เช่น เอสโตรเจน ทำให้เอ็นยืดหยุ่นมากขึ้น นำไปสู่มากขึ้น อาการบาดเจ็บที่ข้อต่อ”

อาการบาดเจ็บที่เข่ามักส่งผลกระทบต่อหนึ่งในสามส่วน: เส้นเอ็น (ซึ่งยึดกล้ามเนื้อกับกระดูก), วงเดือน (แผ่นกันกระแทกของกระดูกอ่อนที่ป้องกันไม่ให้กระดูกของข้อต่อเสียดสีกัน) หรือเอ็น (แถบเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ยึดกระดูกไว้ ร่วมกัน)

หลังจากได้รับบาดเจ็บที่เข่า แพทย์อาจส่งต่อผู้ป่วยเพื่อสแกน MRI เพื่อช่วยในการระบุว่าส่วนใดของข้อต่อได้รับบาดเจ็บ การสแกนด้วย MRI ใช้คลื่นวิทยุและแม่เหล็กแรงสูงร่วมกันเพื่อ "พลิก" โมเลกุลของน้ำในร่างกาย โมเลกุลของน้ำส่งสัญญาณซึ่งสร้างภาพ

อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว MRI จะมองไม่เห็นเส้นเอ็น เอ็น และวงเดือน เนื่องจากวิธีการจัดเรียงโมเลกุลของน้ำในโครงสร้างเหล่านี้ Dr Karyn Chappell อธิบาย

"โดยปกติโครงสร้างเหล่านี้มักเป็นสีดำในการสแกนด้วย MRI ซึ่งไม่ได้สร้างสัญญาณมากนักที่เครื่องสามารถตรวจจับได้เพื่อสร้างภาพ นี่เป็นเพราะพวกเขาสร้างโปรตีนคอลลาเจนเป็นส่วนใหญ่ จัดเป็นเส้นใย คอลลาเจน เส้นใยยึดโมเลกุลของน้ำไว้อย่างแน่นหนา และจริงๆ แล้วมันคือน้ำที่ตรวจพบโดย MRI หากคุณเห็นสัญญาณแสดงว่ามีของเหลวในบริเวณนั้นมากกว่า - ซึ่งแสดงถึงความเสียหาย แต่เป็นเรื่องยากมากสำหรับการแพทย์ เจ้าหน้าที่สรุปว่าหากมีอาการบาดเจ็บ”

เพื่อแก้ปัญหานี้ Dr Chappell ได้ใช้พลังของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "magic angle": "ความสว่างของเนื้อเยื่อเหล่านี้ เช่น เส้นเอ็นและเส้นเอ็นในภาพ MRI ขึ้นอยู่กับมุมระหว่างเส้นใยคอลลาเจนและสนามแม่เหล็กของเครื่องสแกนอย่างมาก ถ้ามุมนี้อยู่ที่ 55 องศา ภาพก็จะสว่างมาก แต่สำหรับมุมอื่นๆ มักจะมืดมาก"

ทีมงานอธิบายมุมเวทย์มนตร์ที่ทำได้ในเครื่องสแกนเนื่องจากสามารถเปลี่ยนทิศทางของสนามแม่เหล็กได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ผู้ป่วยนั่งบนเก้าอี้ได้อย่างสบาย แม่เหล็กที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ (ซึ่งใช้มอเตอร์และเซ็นเซอร์คล้ายกับที่พบในหุ่นยนต์ในโรงงานผลิตรถยนต์) สามารถหมุนรอบขาและปรับสนามแม่เหล็กได้หลายทิศทาง

สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ในเครื่องสแกน MRI ของโรงพยาบาลในปัจจุบัน ซึ่งมีราคาแพงกว่าเครื่องสแกนต้นแบบมากเช่นกัน

“ก่อนหน้านี้ปรากฏการณ์มุมเวทย์มนตร์ถูกมองว่าเป็นปัญหา เนื่องจากอาจหมายถึงเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เข้าใจผิดคิดว่าหัวเข่าได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ฉันรู้ว่าหากเราสแกนรอบเข่าหลายครั้ง เราก็สามารถใช้สัญญาณที่ผลิตโดย เอฟเฟกต์มุมเวทย์มนตร์เพื่อสร้างภาพที่ชัดเจนของโครงสร้างหัวเข่า” ดร. แชปเปลล์อธิบาย

"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราสามารถรวมภาพที่ได้จากมุมแม่เหล็กต่างๆ เข้าด้วยกัน ไม่เพียงแต่เพิ่มความสว่างเท่านั้น แต่ยังดูวิธีการจัดเรียงเส้นใยคอลลาเจนด้วย ซึ่งช่วยให้เราสามารถกำหนดรูปแบบของเส้นใยคอลลาเจนในโครงสร้างหัวเข่า ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่อยู่ข้างหน้า การรักษาเช่นการซ่อมแซมวงเดือนขาด” ดร. แชปเปลล์กล่าวเสริม

"ในขณะนี้ เป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นว่าเส้นใยคอลลาเจนวิ่งไปในทิศทางใดในวงเดือน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพราะการเย็บข้ามเส้นใยจะช่วยซ่อมแซมการฉีกขาดของวงเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากตะเข็บไปในทิศทางเดียวกับเส้นใย การซ่อมแซมอาจล้มเหลว"

ในการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสารMagnetic Resonance in Medicineทีมสหสาขาวิชาชีพได้สแกนข้อเข่าของแพะหกตัวและสุนัขสิบตัวในเครื่องสแกน MRI แบบเดิม

ขาสุนัขทั้งหมดได้รับบริจาคจาก Royal Veterinary College ซึ่งได้รับบริจาคเพื่อการวิจัยโดยเจ้าของสุนัขหลังจากการตายของสัตว์เลี้ยง

สุนัขต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการบาดเจ็บที่เข่าและโรคข้ออักเสบคล้ายกับมนุษย์ จึงเป็นหัวข้อที่ดีสำหรับการศึกษาวิจัยนี้

ผลการวิจัยพบว่าการใช้มุมมายากลสามารถตรวจจับความเสียหายของเอ็นและเส้นเอ็นได้อย่างแม่นยำ

ทีมงานกล่าวว่าตอนนี้พวกเขารู้ว่าการสแกนมุมมายากลสามารถใช้เพื่อแสดงภาพหัวเข่าได้ การรวมสิ่งนี้เข้ากับเครื่องสแกนต้นแบบขนาดเล็กรุ่นใหม่ จะช่วยให้สามารถสแกนหัวเข่าได้อย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยีนี้ และหวังว่าจะก้าวหน้าไปสู่การทดลองเครื่องสแกน "mini" ภายในหนึ่งปี

Dr Chappell อธิบายว่า "แม้ว่านี่จะเป็นการศึกษาการพิสูจน์แนวคิดในระยะเริ่มต้น แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้สามารถนำมาใช้เพื่อตรวจหาอาการบาดเจ็บที่เข่าได้อย่างแม่นยำ ตอนนี้เราหวังว่าจะเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ และสำรวจว่าเทคโนโลยีนี้สามารถนำมาใช้ได้หรือไม่ สำหรับข้อต่ออื่นๆ เช่น ข้อเท้า ข้อมือ และข้อศอก”สล็อตออนไลน์ 918kiss