เซ็นเซอร์รวมกับซอฟต์แวร์ถอดรหัสที่ล้ำสมัยจะแปลการทำงานของสมองที่มาพร้อมกับความพยายามในการพูดให้เป็นคำพูดบนหน้าจอ อัลกอริธึม AI รับและถอดรหัสข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มาจากสมองของเบนเน็ตต์ และในที่สุดก็สอนตัวเองให้แยกแยะการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับความพยายามของเธอในการกำหนดหน่วยเสียงทั้ง 39 หน่วยที่ประกอบเป็นภาษาอังกฤษพูด

สมัคร สล็อต 888 เดิมพันง่าย จ่ายจริง บริการ 24 ชั่วโมง

ระบบจะป้อน "การเดาที่ดีที่สุด" เกี่ยวกับลำดับหน่วยเสียงที่พยายามใช้ของ Bennett ให้เป็นรูปแบบภาษาที่แปลงกระแสเสียงให้เป็นลำดับของคำที่หน่วยเสียงเป็นตัวแทน เนื่องจากวิธีการฝึกฝนระบบ แม้ว่าหน่วยเสียงบางหน่วยจะถูกตีความผิด แต่ก็ยังสามารถคาดเดาได้ดี ตามที่ผู้เขียนระบุ

“ระบบนี้ได้รับการฝึกฝนให้รู้ว่าคำใดควรมาก่อนคำอื่น และหน่วยเสียงใดสร้างคำอะไร” วิลเล็ตต์อธิบาย “หากหน่วยเสียงบางหน่วยถูกตีความผิด ก็ยังสามารถคาดเดาได้ดี”

ระบบใหม่เร็วกว่าการสื่อสารที่ได้รับความช่วยเหลือจาก BCI ก่อนหน้านี้ถึง 3 เท่า

เมื่อ Bennett ฟื้นตัวจากการผ่าตัดแล้ว เซสชันการวิจัยสัปดาห์ละสองครั้งจะฝึกซอฟต์แวร์ให้ตีความคำพูดของเธอ หลังจากนั้นประมาณสี่เดือน ความพยายามของเธอในการพูดก็ถูกแปลงเป็นคำพูดมากกว่า 3 เท่าเร็วกว่าบันทึกก่อนหน้าสำหรับการสื่อสารที่ได้รับความช่วยเหลือจาก BCI

ผู้เขียนระบุว่าความเร็วของเบนเน็ตต์เริ่มเข้าใกล้อัตราการสนทนาตามธรรมชาติระหว่างผู้พูดภาษาอังกฤษประมาณ 160 คำต่อนาที

“เราสามารถถอดรหัสคำพูดที่พยายามของเธอได้แบบเรียลไทม์” ผู้เขียนร่วมErin Kunzนักศึกษาปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าที่ทำงานในห้องปฏิบัติการแปลประสาทเทียมที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในแคลิฟอร์เนีย กล่าว

งานวิจัยนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้ภาพแทนตัวหรือการถอดรหัสเสียง แต่จำนวนคำที่สามารถใช้ได้นั้นมากกว่ามาก คือ 125,000 คำ ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่มากพอที่จะเรียบเรียงเกือบทุกอย่างที่คุณต้องการจะพูด

อุปกรณ์อาจทำให้ผู้คนไม่สามารถพูดเพื่อทำงานและสนทนาได้ทุกวัน

การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่อุปกรณ์ประเภทนี้สามารถช่วยเหลือผู้ที่สูญเสียความสามารถในการพูดได้ ไม่ว่าจะเป็นจาก ALS, โรคหลอดเลือดสมองตีบ หรือการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยประเภทอื่น Kunz กล่าว “เป็นไปได้ว่าในอนาคตความแม่นยำและความเร็วของการถอดรหัสจะทำให้บุคคลเหล่านี้สามารถพูดอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการจะพูด และช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานประจำและรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัวได้” เธอกล่าว

ในระดับส่วนตัว Kunz ได้รับแรงบันดาลใจจากพ่อของเธอที่เป็นโรค ALS และสูญเสียความสามารถในการพูด “นั่นคือวิธีที่ฉันลงเอยด้วยการทำงานนี้ด้วยตัวเอง นี่เป็นความก้าวหน้าอันเหลือเชื่อซึ่งอาจมีความหมายอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต การได้ถามคนที่คุณรักเกี่ยวกับวันของพวกเขา หรือแม้แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการดูทางทีวี สิ่งที่ฉันคิดว่าพวกเราส่วนใหญ่มองข้ามไป ” คุนซ์กล่าว

“ลองนึกภาพการทำกิจกรรมในแต่ละวัน เช่น ช้อปปิ้ง การนัดหมาย สั่งอาหาร เข้าธนาคาร คุยโทรศัพท์ แสดงความรักหรือแสดงความขอบคุณ หรือแม้แต่การโต้เถียง จะเกิดขึ้นได้อย่างไรเมื่อผู้คนที่ไม่ใช้คำพูดสามารถสื่อสารความคิดของตนได้แบบเรียลไทม์” เบนเน็ตต์เขียน ในข่าวประชาสัมพันธ์ของสแตนฟอร์ด

อุปกรณ์สั่งงานด้วยเสียงของ BCI จะวางจำหน่ายภายใน 10 ปีข้างหน้า

โมเสสมองในแง่ดีว่าอุปกรณ์ประเภทนี้อาจจะวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ภายในทศวรรษหน้า

“ฉันรู้สึกประทับใจจริงๆ ที่ได้เห็นปฏิกิริยาของแอนต่อเสียงสังเคราะห์และอวาตาร์ เราต้องการวิธีแก้ปัญหาที่รวบรวมไว้สำหรับผู้ป่วย บางสิ่งบางอย่างที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตัวแทนและขยายตัวเอง เหมือนกับวิธีที่เราปฏิบัติต่อเสียงของเราเอง และความสามารถของเราในการสื่อสารและแสดงออก” เขากล่าว

สำหรับแอน การช่วยพัฒนาเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงชีวิตไปมาก “ตอนที่ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลบำบัด นักบำบัดการพูดไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับฉัน” เธอเขียนเพื่อตอบคำถามในข่าวประชาสัมพันธ์ของUCSF “การได้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิจัยครั้งนี้ทำให้ฉันรู้สึกถึงจุดประสงค์ ฉันรู้สึกเหมือนได้ช่วยเหลือสังคม รู้สึกเหมือนมีงานอีกแล้ว น่าทึ่งมากที่ฉันอายุยืนยาวขนาดนี้ การศึกษาครั้งนี้ทำให้ฉันสามารถมีชีวิตอยู่ได้จริงๆ ในขณะที่ฉันยังมีชีวิตอยู่!”