http://www.omkoi.org/

เขตพิศวงน่ามหัศจรรย์หนึ่งเดียวในไทยที่อยากแนะนำให้ไปดูได้แก่ หมู่ 3 บ้านนาเกียน ต.นาเกียน ห่างอำเภอเพียง 39 กม. ที่โน่นทำนาคั่นบันไดบนเขาโดยใช้ช้างไถนา เป็นแดนเทือกเขาสูงที่ต้องซอกซอนเดินทางวกวนไปตามขุนเขาวิวทิวทัศน์สวยด้วยโฟร์วีลกว่า 2 ชม. เนื่องจากเป็นถนนดินอัดขึ้นลงเขาโดยตลอด หลายแห่งต้องลุยข้ามลำธารเล็กๆ ที่ก้นท้องน้ำเป็นกรวดทราย หลายช่วงเป็นถนนโคลน รถเคลื่อนที่ไปได้อย่างช้าๆ โยนตัวไปตลอดทางชนิดถ้าใครท้องอ่อนๆ มีหวังแท้งลูก แต่จะเพลินด้วยเส้นทางเปี่ยมล้นด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์และความงามของนาคั่นบันได
กำนันภูมิชัย ประเสริฐ เผยว่า ผู้ที่ใช้ช้างทำนาในนาเกียนมีราว 100 ครัวเรือน มีคนรวมกัน 500 กว่าคน ที่โน่นไม่มีไฟฟ้าใช้ ทุกคนอยากได้ไฟฟ้าและถนนที่ใช้เข้าออก ต.นาเกียนได้ตลอดปียิ่งนัก กับบอกมีช้างทั้งหมดเกือบ 20 เชือก ส่วนใหญ่เข้าหุ้นกันซื้อเอาไปรับจ้าง หาเงินมาแบ่งกัน ไม่มีงานรับจ้างก็จะปล่อยช้าง ให้เลี้ยงตัวเองในป่าไปพลางๆ มีงานหรือถึงหน้านาจะไปจับช้าง มาไถนาให้แก่ทุกคนที่เป็นหุ้นส่วนแบบลงแขก ที่โน่นปลูกข้าวเจ้าและทำนาดำคั่นบันไดบนเขาทำได้ปีละครั้ง ถ้าติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้ต้องมีข้าวกินไว้ก่อน นายพะเดจอ เงินสุดเจ ผู้นำชุมชนหนุ่มที่ชื่อแปลว่า "ลูกชายคนสุดท้องเกิดวันจันทร์" อธิบายว่า การใช้ช้างไถนามีมานานแล้ว ทั้งที่ใช้วัวควายที่เลี้ยงไว้ไถนาก็ได้ แต่ไม่ใช้ เพราะมันช้า ไม่ใช่ เพราะพื้นนามีหินปนอยู่มากอย่างที่เข้าใจกัน
ก่อนลงมือไถนาและขึ้นขี่ช้างลากคันไถสาธิตให้ดู พะเดจอชี้ให้เห็นว่า ถ้าใช้ช้างไถนา 1 แรงช้าง จะเท่ากับ 4 แรงวัวหรือควาย แถมได้เนื้องานเร็วกว่ามาก เนื่องจากวัวหรือควายลากคันไถได้คันเดียวซ้ำยังต้องพักเหนื่อยเป็นพักๆ ส่วนช้างลากคันไถได้ตั้งแต่ 1-4 คันไถแล้วแต่จะเลือก ช้างไม่ต้องพักเหนื่อย เพราะไถนาถือว่าใช้งานเบา จะไถแบบเรียงเดี่ยวหรือเรียงหน้ากระดานก็ได้